วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การเลี้ยงปลาน้ำจืด

การเลี้ยงปลาน้ำจืด


การเลี้ยงปลาน้ำจืดและปลาทะเล
                การเลี้ยงปลาน้ำจืดส่วนมากที่นิยมเลี้ยงและนิยมนำมาขายมากคือ ปลาดุก และปลานิล เพราะทั้งสองปลานี้มีน้ำหนักที่ดีและเลี้ยงง่ายทนต่อสภาพอากาศจึงทำให้ทำรายได้ทางการค้าดี    ส่วนปลาทะเลมีการเลี้ยงแต่ใส่ในกระชังซึ่งส่วนมากก็จะเป็นปลากะพงขาว   แต่คนบางคนจับปลาทะเลที่มีสีสวยไปเลี้ยงในตู้เรียกว่าปลาการ์ตูน ทั้งนี้ยังไม่หมดปลายังมีวิตามินซีที่ช่วยบำรุงสมองทำให้เลือดสูบฉีดฉลาดขึ้น

การเลี้ยงปลาน้ำจืดปลาดุก
การเลี้ยงปลาดุกในบ่อดิน
การเลี้ยงปลาดุก การเลี้ยงปลาดุก สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดิน บ่อซีเมนต์และในกระชัง แต่ส่วนมากนิยมเลี้ยงในบ่อดิน ซึ่งขนาดบ่อดินที่เหมาะสมควรมีขนาดไม่เกิน 4-5 ไร่
การเลือกสถานที่เลี้ยงปลาดุก
ปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกสถานที่สร้างบ่อเลี้ยงปลา มีดังนี้
1. สถานที่ไม่เป็นที่ลุ่มหรือที่ดอนเกินไป สามารถจัดระบบน้ำระบายน้ำเข้า-ออกได้ดี
2. สภาพดินควรเป็นดินเหนียวสามารถทำเป็นคันบ่อเก็บกักน้ำได้ดี
3. สภาพน้ำต้องเป็นน้ำสะอาดปราศจากสารพิษของโลหะหนักหรือยาฆ่าแมลง หรือของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
4. ทางคมนาคมสะดวก

ประเภทปลาดุก
ปลาดุกอุย


ปลาดุกด้าน






ปลา ดุก รัสเซีย



การเตรียมบ่อเลี้ยงปลาดุก
มีวิธีการเตรียมบ่อดังนี้
1. บ่อใหม่
ใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดินในอัตรา 60-100 กิโลกรัม/ไร่ โดยให้ทั่วพื้นบ่อ
ใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 200 กิโลกรัม/ไร่ โดยโรยให้ทั่วบ่อ
เติมน้ำให้ได้ระดับ 40-50 เซนติเมตร ทิ้งไว้ 3-5 วัน จนน้ำเริ่มเป็นสีเขียวระวังอย่าให้เกิดแมลง หรือศัตรูปลา
2. บ่อเก่า
ทำความสะอาดบ่อลอกเลนให้มากที่ส
ใส่ปูนขาวอัตรา 60-100 กิโลกรัม/ไร่
ตากบ่อให้แห้ง ประมาณ 7-15 วัน
นำปุ๋ยคอกใส่ถุงแขวนไว้ตามมุมบ่อประมาณ 60-100 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อเพิ่มอาหารธรรมชาติ
เติมน้ำ 40-50 เซนติเมตร ทิ้งไว้ 3-5 วัน จนน้ำเป็นสีเขียว


ก่อนปล่อยปลาควรตรวจวัดความเป็นกรด-ด่างของน้ำอีกครั้ง ถ้าไม่ถึง 7.5-8.5 ควรน้ำปูนขาวละลายน้ำสาดให้ทั่วบ่อเพื่อปรับความเป็นกรด-ด่าง ให้ได้ 7.5-8.5


การเตรียมพันธ์ปลาดุก
การเลือกซื้อลูกปลาควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. แหล่งพันธุ์หรือบ่อเพาะฟัก ควรดูจาก
ความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ในเรื่องคุณภาพ
มีการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ เพื่อให้ได้พันธุ์ที่มีคุณภาพ
มีความชำนาญในการขนส่งลูกปลา
2. ลักษณะภายนอกของลูกปลาต้องปกติสมบูรณ์ ซึ่งสังเกตจาก
การว่ายน้ำต้องปราดเปรียว ไม่ว่ายควงสว่าน หรือลอยตัวตั้งฉากพื้นบ่อ
ลำตัวสมบูรณ์ หนวด หาง ครีบ ไม่กร่อน ไม่มีบาดแผล ไม่มีจุดหรือปุยขาวเกาะ
ขนาดลูกปลาต้องเสมอกัน
การปล่อยลูกปลาดุกในบ่อเลี้ยง
เมื่อขนส่งลูกปลามาถึงบ่อที่เตรียมไว้ควรแช่ถุงปลาไว้ในบ่อประมาณ 10-15 นาที เพื่อปรับอุณหภูมิระหว่างน้ำในถุงกับน้ำในบ่อเพื่อป้องกันลูกปลาช็อค ก่อนปล่อยลูกปลาควรมีการทำร่มเงาไว้ในบ่อให้ลูกปลาได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
อัตราการปล่อย
เกษตรกรรายใหม่ ควรปล่อยลูกปลาขนาดปลานิ้ว จะทำให้อัตราการรอดสูง อัตราการปล่อย ปลาขนาด 2-3 เซนติเมตร ปล่อย 80,000-100,000 ตัว/ไร่ ก่อนปล่อยควรสุ่มนับจำนวนเพื่อตรวจสอบให้รู้จำนวนจริง
อาหารและการให้อาหาร

ต้นทุนการผลิตปลาประมาณ 80% เป็นค่าอาหาร เพราะฉะนั้นการเลี้ยงใช้อาหารเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ


การเลือกซื้ออาหาร
ลักษณะของอาหาร
สีสันดี
กลิ่นดี ไม่เหม็นหืน
ขนาดเม็ดสม่ำเสมอ ไม่เป็นฝุ่น
การลอยตัวของอาหารในน้ำอยู่ได้นาน
อาหารไม่เปียกชื้น ไม่จับตัวเป็นก้อน ไม่ขึ้นรา
ประเภทของอาหารสำเร็จรูป
อาหารสำหรับลูกปลาวัยอ่อน ใช้สำหรับลูกปลาขนาด 1 – 4 เซนติเมตร
อาหารปลาดุกเล็กพิเศษ ใช้สำหรับลูกปลาขนาด 3 เซนติเมตร – 1 เดือน
อาหารปลาดุกเล็ก ใช้สำหรับปลาอายุ 1-3 เดือน
อาหารปลาดุกใหญ่ ใช้สำหรับปลาอายุ 3 เดือน - ส่งตลาด






วิธีการให้อาหาร

ปลาดุกเมื่อปล่อยลูกปลาวันแรกไม่ต้องให้อาหาร จะเริ่มให้อาหารวันถัดไป -อาหารที่ให้เป็นอาหารลูกปลาวัยอ่อน พรมน้ำ แล้วนวดจนเหนียวปั้นเป็นก้อนแล้วเสียบกับไม้ปักไว้รอบบ่อปริมาณที่ให้ต้อง- ให้ปลากินหมด ภายในเวลา 30-60 นาที โดยให้อาหารประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นอาจจะให้อาหารปลาดุกเล็กพิเศษแช่น้ำให้นิ้มแล้วปั่นรวมกับอาหาร ลูกปลาวัยอ่อนให้ปลากิน เมื่อปลาโตพอกินอาหารเม็ดได้ก็เริ่มให้อาหารปลาดุกเล็กพิเศษอย่างเดียวหว่าน
-ให้กินกระจายทั่วบ่อ ปริมาณที่ให้กะหมดภายใน 30 นาที ให้กินจนลูกปลาอายุ 1 เดือน- ให้อาหารปลาดุกเล็กโดยให้ในแต่ละมื้อควรให้ปลากินหมดภายใน 30 นาที ช่วงนี้ควรเริ่มฝึกให้ปลากินอาหารเป็นที่โดยให้อาหารจุดเดิมประจำปละเคาะหลักไม้ทุกครั้งเมื่อมีการให้อาหาร- การให้อาหารปลาจะให้ 2 มื้อ ต่อวันให้อาหารปลาดุกเล็กจน



การเก็บปลาดุก ในบ่อดิน
รวมทั้งหมด6เดือน ให้คนมาดูมาตีราคา
ปลาขนาด 5-7ขีด ซึ่งเค้ารับซื้อตัวละ40-60 บาท ยกบ่อ
ตีรวมๆตายบ้าง ตัวเล็กบ้าง (บางทีให้อาหารไม่ทั่วถึง) ปลาอื่นๆรวมๆบ้าง
เค้าตีราคามาให้ 130,000
เค้าก็มาวิดน้ำจับปลากันเต็มวัน
มาคำนวณกำไร
ค่าปลา 500+4,000
ค่าอาหารประมาน 8,000 (ปกติซื้อ370.- บางครั้งซื้ออีกเจ้า 400.- ตีราคาคร่าวๆนะคะ)
เป็น 12,500.-
กำไร 117,500.-
ใช้ระยะเวลา 6เดือน
เท่ากับสระดินที่อยู่เฉยๆ ในรีสอร์ททำกำไรเดือนละเกือบๆ สองหมื่นค่ะ
ดิฉันว่าก็โอเค สำหรับครั้งแรก และเป็นมือใหม่ไร้ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้เลย
จริงๆที่รีสอร์ททำกำไรคืนค่าอาหารปลาไปบ้าง โดยการแบ่งใส่ถุง ราคาถุงละ 10.-  ให้ลูกค้าให้อาหารปลาเพลินๆ กำไรทั้งสร้างกิจกรรมให้ลูกค้า และพวกปลาก็อิ่มด้วยค่ะ
ครั้งต่อไปจะซื้อเพิ่มจำนวน แล้วจะมารายงานกำไรนะคะ





การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์แบบครัวเรือน
ประโยชน์การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์
       1. ใช้พื้นที่น้อย สามารถเลี้ยงได้ทุกที่
       2. ใช้เวลาเลี้ยงสั้น รุ่นละประมาณ 90 - 120 วัน
       3. ปลาดุกเป็นปลาที่อดทนต่อสภาพน้ำได้ดี
       4. สามารถเลี้ยง ดูแลรักษาได้สะดวก บริโภคในครัวเรือนและส่วนที่เหลือนำไปจำหน่ายได้
การเลือกสถานที่สร้างบ่อ
       1. การเลือกสถานที่สร้างบ่อ
          - บ่อควรอยู่ใกล้บ้าน หรือที่สามารถดูแลได้สะดวก
          - ควรอยู่ในร่มหรือมีหลังคา เพราะปลาดุกไม่ชอบแสงแดดจัด และป้องกันเศษใบไม้ลงสู่บ่อจะทำให้น้ำเสียได้
          - มีแหล่งน้ำสำหรับเปลี่ยนถ่ายน้ำได้สะดวกพอสมควร
       2. การสร้างบ่อ
          - บ่อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร สูงประมาณ 40 ซม.
          - ควรมี 2 บ่อ เพื่อใช้คัดขนาดปลาและสำรองน้ำไว้ถ่ายเท
          - ผนังและพื้นบ่อควรใส่สารกันรั่วซึม
          - มีท่อระบายน้ำเพื่อช่วยในการถ่ายเทน้ำ
การเตรียมบ่อก่อนการเลี้ยง
       1. การเตรียมบ่อก่อนการเลี้ยงปลา ให้ตัดต้นกล้วยเป็นท่อใส่ลงไปในบ่อ เติมน้ำให้ท่วม แช่ไว้ 3 - 5 วัน เปลี่ยนต้นกล้วยแล้วแช่ไว้อี่ครั้งเพื่อให้หมดฤทธิ์ปูนขาว แล้วล้างบ่อให้สะอาด
       2. ตรวจสอบสภาพน้ำให้เป็นกลางหมดฤทธิ์ของปูน ถ้ามีตะใคร่น้ำเกาะติดที่ข้างบ่อปูนถึงจะดี
       3. น้ำที่จะใช้เลี้ยงคือน้ำจากคลอง หนอง บึง ต้องตรวจสอบว่ามีศัตรูปลาเข้ามาในบ่อด้วยหรือเปล่า
       4. น้ำฝน น้ำบาดาล น้ำประปา ควรพักน้ำไว้ประมาณ 3 - 5 วัน ก่อนนำมาใช้ได้
อัตราการปล่อยปลาและเลี้ยง
       1. ปลาเริ่มเลี้ยงความยาว 5 -7 ซม.
       2. อัตราการปล่อยลงเลี้ยงในถังซีเมนต์กลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร ถึก 40 ซม. ประมาณ 80 - 100 ตัว
       3. ก่อนปล่อยปลาลงเลี้ยงควรใส่เกลือแกลงประมาณ 2 - 3 ช้อนแกง เพื่อช่วยปรับสภาพน้ำ
       4. ระดับน้ำที่ปล่อยปลาครั้งแรก 10 -15 ซม.
       5. การปล่อยปลาควรปล่อยในตอนเช้า
       6. ควรนำถุงปลาที่จะปล่อยลงเลี้ยงแช่ในบ่อประมาณ 30 นาที เพื่อให้อุณหภูมิน้ำในถุงปลาและน้ำในบ่อไม่แตกต่างกันป้องกันปลาตายได้
       7. ควรมีวัสดุให้ปลาหลบซ่อน เช่นท่อพีวีซีตัดเป็นท่อนหรือกระบอกไม้ไผ่ เพราะปลาตัวใหญ่จะกวนปลาตัวเล็ก
       8. ควรมีการคัดขนาดปลา เมื่อมีอายุประมาณ 15 -20 วัน โดยนำตัวเล็กแยกไว้อีกบ่อหนึ่ง
       9. ควรมีวัสดุช่วยบังแสงแดด
การถ่ายน้ำ
       1. เริ่มเลี้ยงระดับน้ำลึก 10 - 15 ซม.
       2. เพิ่มระดับน้ำอีก 5 - 10 ซม. เมื่อเลี้ยงไปได้ 10 - 15 วัน
       3. ระดับน้ำสูงสุดไม่เกิน 40 ซม.
       4. ถ่ายเทน้ำทุก 5 -7 วัน
       5. ถ่ายเทน้ำแต่ละครั้งไม่ควรถ่ายจนหมด ถ่ายน้ำประมาณ 1 ส่วน 3 ของน้ำในบ่อ
       6. ขณะถ่ายเทน้ำไม่ควรรบกวนให้ปลาดุกตกใจเพราะปลาจะไม่กินอาหาร 2-3 วัน
อาหารและการให้อาหาร
       1. อาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ดลอยน้ำ
          - ปล่อยปลาขนาด 5-7 ซม. ให้อาหารปลาดุกเล็ก
          - ปลาขนาด 7 ซม. ขึ้นไป ให้อาหารปลาดุกรุ่น
       2. อาหารสด เช่น เศษปลา ไส้ไก่ ปลวก โครงไก่ การให้อาหารควรให้อาหารวันละประมาณ 3 ครั้ง ในช่วงเช้า-เย็น ให้อาหารประมาณ 3-5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวปลาต่อวัน (หรือให้กินจนอิ่ม)
การป้องกันและรักษาโรคปลาดุก
       1. ไม่ปล่อยปลาหนาแน่นเกินไป
       2. ไม่ให้อาหารมากจนเกินไป
       3. รักษาคุณภาพน้ำให้เหมาะสม
       4. ถ่ายเทน้ำทุก 5-7 วัน

โรคปลาดุกและการรักษา
       1. โรคกระโหลกร้าว แก้ไขโดยผสมวิตามินซี 1 กรัมกับอาหาร 1 กิโลกรัม ให้ปลากินติดต่อกัน 15 วัน
       2. โรคจากเชื้อแบคทีเรียและแผลข้างตัว ใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ออกซิเททราไซคลิน 1 กรัม ผสมอาหาร 1 กิโลกรัม ให้ปลากินติดต่อกัน 7-10 วัน
       3. หากมีปลาตายและเป็นแผลตามลำตัวให้ทำลายปลาตาย เช่น เผาหรือฝัง
การเก็บปลาดุก ในบ่อซีเมนต์ การจำหน่าย
1.
ก่อนจะจำหน่าย 2 วัน ให้นำดินลูกรังสีแดงหรือซังข้าวมาแช่ไว้ในบ่อ จะทำให้ปลาดุกมีสีเหลืองสวย ขายได้ราคาดี
2.
ปลาดุก 3 เดือนครึ่ง จำนวน 70 ตัว จะมีน้ำหนัก 14-15 กิโลกรัม หรือประมาณ 4-5 ตัว/กิโลกรัม จำหน่ายได้กิโลกรัมละ 60-70 บาท
3.
ต้นทุนอาหารกิโลกรัมละ 19-20 บาท หมายเหตุ ต้นทุนครั้งแรก 1 ชุด 430 บาท น้ำที่ถ่ายทิ้งจากบ่อปลาสามารถนำมารดต้นไม้ พืชผักสวนครัว เป็นปุ๋ยอย่างดี


หมายเหตุ : ราคาที่จำหน่ายปลาขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่ ต้นทุนการผลิตขึ้นกับวัสดุและอุปกรณ์ในแต่ละท้องถิ่น




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น