การเลี้ยงปลาน้ำจืด
การเลี้ยงปลาน้ำจืดและปลาทะเล
การเลี้ยงปลาน้ำจืดส่วนมากที่นิยมเลี้ยงและนิยมนำมาขายมากคือ ปลาดุก
และปลานิล
เพราะทั้งสองปลานี้มีน้ำหนักที่ดีและเลี้ยงง่ายทนต่อสภาพอากาศจึงทำให้ทำรายได้ทางการค้าดี ส่วนปลาทะเลมีการเลี้ยงแต่ใส่ในกระชังซึ่งส่วนมากก็จะเป็นปลากะพงขาว
แต่คนบางคนจับปลาทะเลที่มีสีสวยไปเลี้ยงในตู้เรียกว่าปลาการ์ตูน
ทั้งนี้ยังไม่หมดปลายังมีวิตามินซีที่ช่วยบำรุงสมองทำให้เลือดสูบฉีดฉลาดขึ้น
การเลี้ยงปลาน้ำจืดปลาดุก
การเลี้ยงปลาดุกในบ่อดิน
การเลี้ยงปลาดุก การเลี้ยงปลาดุก สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดิน
บ่อซีเมนต์และในกระชัง แต่ส่วนมากนิยมเลี้ยงในบ่อดิน
ซึ่งขนาดบ่อดินที่เหมาะสมควรมีขนาดไม่เกิน 4-5 ไร่
|
การเลือกสถานที่เลี้ยงปลาดุก
ปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกสถานที่สร้างบ่อเลี้ยงปลา
มีดังนี้
1.
สถานที่ไม่เป็นที่ลุ่มหรือที่ดอนเกินไป สามารถจัดระบบน้ำระบายน้ำเข้า-ออกได้ดี
2.
สภาพดินควรเป็นดินเหนียวสามารถทำเป็นคันบ่อเก็บกักน้ำได้ดี
3.
สภาพน้ำต้องเป็นน้ำสะอาดปราศจากสารพิษของโลหะหนักหรือยาฆ่าแมลง
หรือของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
4. ทางคมนาคมสะดวก
ประเภทปลาดุก
ปลาดุกอุย
ปลาดุกด้าน
ปลา ดุก รัสเซีย
|
|
การเตรียมบ่อเลี้ยงปลาดุก
มีวิธีการเตรียมบ่อดังนี้
1. บ่อใหม่
- ใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดินในอัตรา 60-100 กิโลกรัม/ไร่ โดยให้ทั่วพื้นบ่อ
- ใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 200 กิโลกรัม/ไร่ โดยโรยให้ทั่วบ่อ
- เติมน้ำให้ได้ระดับ 40-50 เซนติเมตร ทิ้งไว้ 3-5 วัน
จนน้ำเริ่มเป็นสีเขียวระวังอย่าให้เกิดแมลง หรือศัตรูปลา
2. บ่อเก่า
- ทำความสะอาดบ่อลอกเลนให้มากที่ส
- ใส่ปูนขาวอัตรา 60-100 กิโลกรัม/ไร่
- ตากบ่อให้แห้ง
ประมาณ 7-15 วัน
- นำปุ๋ยคอกใส่ถุงแขวนไว้ตามมุมบ่อประมาณ 60-100 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อเพิ่มอาหารธรรมชาติ
- เติมน้ำ 40-50 เซนติเมตร ทิ้งไว้ 3-5 วัน
จนน้ำเป็นสีเขียว
ก่อนปล่อยปลาควรตรวจวัดความเป็นกรด-ด่างของน้ำอีกครั้ง
ถ้าไม่ถึง 7.5-8.5 ควรน้ำปูนขาวละลายน้ำสาดให้ทั่วบ่อเพื่อปรับความเป็นกรด-ด่าง ให้ได้ 7.5-8.5
|
|
การเตรียมพันธ์ปลาดุก
การเลือกซื้อลูกปลาควรพิจารณาปัจจัยต่าง
ๆ ดังนี้
1. แหล่งพันธุ์หรือบ่อเพาะฟัก ควรดูจาก
- ความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ในเรื่องคุณภาพ
- มีการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์
เพื่อให้ได้พันธุ์ที่มีคุณภาพ
- มีความชำนาญในการขนส่งลูกปลา
2. ลักษณะภายนอกของลูกปลาต้องปกติสมบูรณ์ ซึ่งสังเกตจาก
- การว่ายน้ำต้องปราดเปรียว
ไม่ว่ายควงสว่าน หรือลอยตัวตั้งฉากพื้นบ่อ
- ลำตัวสมบูรณ์
หนวด หาง ครีบ ไม่กร่อน ไม่มีบาดแผล ไม่มีจุดหรือปุยขาวเกาะ
- ขนาดลูกปลาต้องเสมอกัน
การปล่อยลูกปลาดุกในบ่อเลี้ยง
เมื่อขนส่งลูกปลามาถึงบ่อที่เตรียมไว้ควรแช่ถุงปลาไว้ในบ่อประมาณ 10-15 นาที
เพื่อปรับอุณหภูมิระหว่างน้ำในถุงกับน้ำในบ่อเพื่อป้องกันลูกปลาช็อค
ก่อนปล่อยลูกปลาควรมีการทำร่มเงาไว้ในบ่อให้ลูกปลาได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
อัตราการปล่อย
เกษตรกรรายใหม่
ควรปล่อยลูกปลาขนาดปลานิ้ว จะทำให้อัตราการรอดสูง อัตราการปล่อย ปลาขนาด 2-3
เซนติเมตร ปล่อย 80,000-100,000 ตัว/ไร่ ก่อนปล่อยควรสุ่มนับจำนวนเพื่อตรวจสอบให้รู้จำนวนจริง
|
|
อาหารและการให้อาหาร
ต้นทุนการผลิตปลาประมาณ 80%
เป็นค่าอาหาร เพราะฉะนั้นการเลี้ยงใช้อาหารเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
การเลือกซื้ออาหาร
ลักษณะของอาหาร
- สีสันดี
- กลิ่นดี
ไม่เหม็นหืน
- ขนาดเม็ดสม่ำเสมอ
ไม่เป็นฝุ่น
- การลอยตัวของอาหารในน้ำอยู่ได้นาน
- อาหารไม่เปียกชื้น
ไม่จับตัวเป็นก้อน ไม่ขึ้นรา
ประเภทของอาหารสำเร็จรูป
- อาหารสำหรับลูกปลาวัยอ่อน
ใช้สำหรับลูกปลาขนาด 1 – 4 เซนติเมตร
- อาหารปลาดุกเล็กพิเศษ
ใช้สำหรับลูกปลาขนาด 3 เซนติเมตร –
1 เดือน
- อาหารปลาดุกเล็ก
ใช้สำหรับปลาอายุ 1-3 เดือน
- อาหารปลาดุกใหญ่
ใช้สำหรับปลาอายุ 3 เดือน - ส่งตลาด
|
|
|
|
วิธีการให้อาหาร
ปลาดุกเมื่อปล่อยลูกปลาวันแรกไม่ต้องให้อาหาร
จะเริ่มให้อาหารวันถัดไป -อาหารที่ให้เป็นอาหารลูกปลาวัยอ่อน
พรมน้ำ แล้วนวดจนเหนียวปั้นเป็นก้อนแล้วเสียบกับไม้ปักไว้รอบบ่อปริมาณที่ให้ต้อง-
ให้ปลากินหมด ภายในเวลา 30-60 นาที
โดยให้อาหารประมาณ 1 สัปดาห์
หลังจากนั้นอาจจะให้อาหารปลาดุกเล็กพิเศษแช่น้ำให้นิ้มแล้วปั่นรวมกับอาหาร
ลูกปลาวัยอ่อนให้ปลากิน
เมื่อปลาโตพอกินอาหารเม็ดได้ก็เริ่มให้อาหารปลาดุกเล็กพิเศษอย่างเดียวหว่าน
-ให้กินกระจายทั่วบ่อ ปริมาณที่ให้กะหมดภายใน 30 นาที ให้กินจนลูกปลาอายุ 1 เดือน-
ให้อาหารปลาดุกเล็กโดยให้ในแต่ละมื้อควรให้ปลากินหมดภายใน 30 นาที ช่วงนี้ควรเริ่มฝึกให้ปลากินอาหารเป็นที่โดยให้อาหารจุดเดิมประจำปละเคาะหลักไม้ทุกครั้งเมื่อมีการให้อาหาร-
การให้อาหารปลาจะให้ 2 มื้อ
ต่อวันให้อาหารปลาดุกเล็กจน
การเก็บปลาดุก ในบ่อดิน
รวมทั้งหมด6เดือน ให้คนมาดูมาตีราคา
ปลาขนาด 5-7ขีด
ซึ่งเค้ารับซื้อตัวละ40-60
บาท ยกบ่อ
ตีรวมๆตายบ้าง ตัวเล็กบ้าง
(บางทีให้อาหารไม่ทั่วถึง) ปลาอื่นๆรวมๆบ้าง
เค้าตีราคามาให้ 130,000
เค้าก็มาวิดน้ำจับปลากันเต็มวัน
มาคำนวณกำไร
ค่าปลา 500+4,000
ค่าอาหารประมาน 8,000 (ปกติซื้อ370.-
บางครั้งซื้ออีกเจ้า 400.- ตีราคาคร่าวๆนะคะ)
เป็น 12,500.-
กำไร 117,500.-
ใช้ระยะเวลา 6เดือน
เท่ากับสระดินที่อยู่เฉยๆ ในรีสอร์ททำกำไรเดือนละเกือบๆ
สองหมื่นค่ะ
ดิฉันว่าก็โอเค สำหรับครั้งแรก
และเป็นมือใหม่ไร้ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้เลย
จริงๆที่รีสอร์ททำกำไรคืนค่าอาหารปลาไปบ้าง
โดยการแบ่งใส่ถุง ราคาถุงละ 10.- ให้ลูกค้าให้อาหารปลาเพลินๆ
กำไรทั้งสร้างกิจกรรมให้ลูกค้า และพวกปลาก็อิ่มด้วยค่ะ
ครั้งต่อไปจะซื้อเพิ่มจำนวน
แล้วจะมารายงานกำไรนะคะ
การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์แบบครัวเรือน
ประโยชน์การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์
1. ใช้พื้นที่น้อย สามารถเลี้ยงได้ทุกที่
2. ใช้เวลาเลี้ยงสั้น รุ่นละประมาณ 90 - 120 วัน
3. ปลาดุกเป็นปลาที่อดทนต่อสภาพน้ำได้ดี
4. สามารถเลี้ยง ดูแลรักษาได้สะดวก บริโภคในครัวเรือนและส่วนที่เหลือนำไปจำหน่ายได้
การเลือกสถานที่สร้างบ่อ
1. การเลือกสถานที่สร้างบ่อ
- บ่อควรอยู่ใกล้บ้าน หรือที่สามารถดูแลได้สะดวก
- ควรอยู่ในร่มหรือมีหลังคา เพราะปลาดุกไม่ชอบแสงแดดจัด และป้องกันเศษใบไม้ลงสู่บ่อจะทำให้น้ำเสียได้
- มีแหล่งน้ำสำหรับเปลี่ยนถ่ายน้ำได้สะดวกพอสมควร
2. การสร้างบ่อ
- บ่อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร สูงประมาณ 40 ซม.
- ควรมี 2 บ่อ เพื่อใช้คัดขนาดปลาและสำรองน้ำไว้ถ่ายเท
- ผนังและพื้นบ่อควรใส่สารกันรั่วซึม
- มีท่อระบายน้ำเพื่อช่วยในการถ่ายเทน้ำ
การเตรียมบ่อก่อนการเลี้ยง
1. การเตรียมบ่อก่อนการเลี้ยงปลา ให้ตัดต้นกล้วยเป็นท่อใส่ลงไปในบ่อ เติมน้ำให้ท่วม แช่ไว้ 3 - 5 วัน เปลี่ยนต้นกล้วยแล้วแช่ไว้อี่ครั้งเพื่อให้หมดฤทธิ์ปูนขาว แล้วล้างบ่อให้สะอาด
2. ตรวจสอบสภาพน้ำให้เป็นกลางหมดฤทธิ์ของปูน ถ้ามีตะใคร่น้ำเกาะติดที่ข้างบ่อปูนถึงจะดี
3. น้ำที่จะใช้เลี้ยงคือน้ำจากคลอง หนอง บึง ต้องตรวจสอบว่ามีศัตรูปลาเข้ามาในบ่อด้วยหรือเปล่า
4. น้ำฝน น้ำบาดาล น้ำประปา ควรพักน้ำไว้ประมาณ 3 - 5 วัน ก่อนนำมาใช้ได้
อัตราการปล่อยปลาและเลี้ยง
1. ปลาเริ่มเลี้ยงความยาว 5 -7 ซม.
2. อัตราการปล่อยลงเลี้ยงในถังซีเมนต์กลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร ถึก 40 ซม. ประมาณ 80 - 100 ตัว
3. ก่อนปล่อยปลาลงเลี้ยงควรใส่เกลือแกลงประมาณ 2 - 3 ช้อนแกง เพื่อช่วยปรับสภาพน้ำ
4. ระดับน้ำที่ปล่อยปลาครั้งแรก 10 -15 ซม.
5. การปล่อยปลาควรปล่อยในตอนเช้า
6. ควรนำถุงปลาที่จะปล่อยลงเลี้ยงแช่ในบ่อประมาณ 30 นาที เพื่อให้อุณหภูมิน้ำในถุงปลาและน้ำในบ่อไม่แตกต่างกันป้องกันปลาตายได้
7. ควรมีวัสดุให้ปลาหลบซ่อน เช่นท่อพีวีซีตัดเป็นท่อนหรือกระบอกไม้ไผ่ เพราะปลาตัวใหญ่จะกวนปลาตัวเล็ก
8. ควรมีการคัดขนาดปลา เมื่อมีอายุประมาณ 15 -20 วัน โดยนำตัวเล็กแยกไว้อีกบ่อหนึ่ง
9. ควรมีวัสดุช่วยบังแสงแดด
การถ่ายน้ำ
1. เริ่มเลี้ยงระดับน้ำลึก 10 - 15 ซม.
2. เพิ่มระดับน้ำอีก 5 - 10 ซม. เมื่อเลี้ยงไปได้ 10 - 15 วัน
3. ระดับน้ำสูงสุดไม่เกิน 40 ซม.
4. ถ่ายเทน้ำทุก 5 -7 วัน
5. ถ่ายเทน้ำแต่ละครั้งไม่ควรถ่ายจนหมด ถ่ายน้ำประมาณ 1 ส่วน 3 ของน้ำในบ่อ
6. ขณะถ่ายเทน้ำไม่ควรรบกวนให้ปลาดุกตกใจเพราะปลาจะไม่กินอาหาร 2-3 วัน
อาหารและการให้อาหาร
1. อาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ดลอยน้ำ
- ปล่อยปลาขนาด 5-7 ซม. ให้อาหารปลาดุกเล็ก
- ปลาขนาด 7 ซม. ขึ้นไป ให้อาหารปลาดุกรุ่น
2. อาหารสด เช่น เศษปลา ไส้ไก่ ปลวก โครงไก่ การให้อาหารควรให้อาหารวันละประมาณ 3 ครั้ง ในช่วงเช้า-เย็น ให้อาหารประมาณ 3-5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวปลาต่อวัน (หรือให้กินจนอิ่ม)
การป้องกันและรักษาโรคปลาดุก
1. ไม่ปล่อยปลาหนาแน่นเกินไป
2. ไม่ให้อาหารมากจนเกินไป
3. รักษาคุณภาพน้ำให้เหมาะสม
4. ถ่ายเทน้ำทุก 5-7 วัน
โรคปลาดุกและการรักษา
1. โรคกระโหลกร้าว แก้ไขโดยผสมวิตามินซี 1 กรัมกับอาหาร 1 กิโลกรัม ให้ปลากินติดต่อกัน 15 วัน
2. โรคจากเชื้อแบคทีเรียและแผลข้างตัว ใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ออกซิเททราไซคลิน 1 กรัม ผสมอาหาร 1 กิโลกรัม ให้ปลากินติดต่อกัน 7-10 วัน
3. หากมีปลาตายและเป็นแผลตามลำตัวให้ทำลายปลาตาย เช่น เผาหรือฝัง
การเก็บปลาดุก
ในบ่อซีเมนต์ การจำหน่าย
1.ก่อนจะจำหน่าย
2 วัน ให้นำดินลูกรังสีแดงหรือซังข้าวมาแช่ไว้ในบ่อ
จะทำให้ปลาดุกมีสีเหลืองสวย ขายได้ราคาดี
2.ปลาดุก 3 เดือนครึ่ง จำนวน 70 ตัว จะมีน้ำหนัก 14-15 กิโลกรัม
หรือประมาณ 4-5 ตัว/กิโลกรัม จำหน่ายได้กิโลกรัมละ 60-70 บาท
3.ต้นทุนอาหารกิโลกรัมละ
19-20 บาท หมายเหตุ ต้นทุนครั้งแรก 1 ชุด 430 บาท
น้ำที่ถ่ายทิ้งจากบ่อปลาสามารถนำมารดต้นไม้ พืชผักสวนครัว เป็นปุ๋ยอย่างดี
หมายเหตุ :
ราคาที่จำหน่ายปลาขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่
ต้นทุนการผลิตขึ้นกับวัสดุและอุปกรณ์ในแต่ละท้องถิ่น
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น