วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การประมงน้ำจืดและน้ำทะเลในประเทศไทย

การประมงน้ำจืดและน้ำทะเลในประเทศไทย

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในโซนร้อน มีอากาศที่ค่อนข้างร้อน และ อุณหภูมิของน้ำที่ค่อนข้างสูงเกือบตลอดทั้งปี เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำชนิดต่างๆ ได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นฝนซึ่งเกิดจากฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมที่มีความหนาวเย็นและพัดมาจากประเทศจีนตอนเหนือ และ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดผ่านทะเลมา จะนำเอาความชื้นและฝน มาสู่ประเทศไทยสลับกันไปเป็นฤดูกาล เมื่อฝนตกสู่พื้นดินไหลซะเอาปุ๋ยและเกลือแร่ต่าง ๆ จากทางภาคเหนือลงแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน รวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำบางปะกง และแม่น้ำเพชรบุรี แล้วไหลลงมาสู่บริเวณ ก้นอ่าวไทย ทำให้แม่น้ำต่างๆในประเทศไทย และ บริเวณอ่าวไทยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำน้อยใหญ่นานาชนิด







บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ 


ทะเลสาบสงขลา



ประเทศไทยมีย่านน้ำที่จัดว่ามีความสำคัญ อยู่สองลักษณะก็คือ ย่านน้ำจืด และ ย่านน้ำเค็ม , ย่านน้ำจืดนั้นก็ได้แก่ แม่น้ำ ลำคลอง บึง บาง และ หนองต่างๆ ที่มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ บึงและหนองขนาดใหญ่ซึ่งมีความสำคัญของไทยในสมัยปัจจุบัน คือ บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา หนองหาร จังหวัดสกลนคร หนองหลวง จังหวัดเชียงราย ห้วยละหาน จังหวัดชัยภูมิ และ ทะเลสาบสงขลา อันเป็นทะเลสาบน้ำเค็ม กึ่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
         
ในสมัยก่อนคนไทยยังไม่มีการสร้างเขื่อนเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในการเกษตรกรรม อย่างเช่นประเทศเราในปัจจุบันนี้ เมื่อฝนตกน้ำได้ไหลบ่าหลากท่วมท้นไปในที่ลุ่มทุกหนแห่ง ทำให้ปลาได้มีโอกาสเดินทางออกไปในสถานที่น้ำท่วมเหล่านั้น เพื่อแสวงหาอาหารและขยายพืชพันธุ์ ต่อเมื่อน้ำได้ลดลงปลาก็จะพากันมารวมตัวกันอยู่ในบริเวณหนอง บึง บาง ทำให้เกิดการจับสัตว์น้ำขึ้นมา ดังนั้นในฤดูน้ำไหลหลากซึ่งเรียกกันว่า ฤดูน้ำแดง กรมประมงจึงได้มีการประกาศห้ามทำการจับสัตว์น้ำ เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ปลาให้มีโอกาศได้แพร่ขยายพันธุ์ต่อไป.
      

บางส่วนของวัชพืชเน่าตาย และจมลง ทำให้บึงบอระเพ็ดตื้นเขิน ทำให้เสียสภาพเหมาะสมแก่สัตว์น้ำ จึงทำให้พันธุ์ปลาน้ำจืดมีจำนวนลดลงทั้งชนิดและปริมาณ โดยพบเพียง


 เครื่องมือการทำประมงในย่านน้ำจืดนั้น ไม่ใคร่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะหนองน้ำ และ บึง ต่าง ๆ เริ่มตื้นเขิน และ มีจำนวนลดลง การใช้ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และ ยาปราบวัชพืช เพื่อการเกษตรก็มีส่วนทำให้เผ่าพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติของประเทศไทยหลายๆชนิด ต้องสูญสิ้นไป นอกจากนั้นแล้วการสร้างเขื่อนต่างๆ ก็นับเป็นสาเหตุใหญ่ซึ่งทำให้ปุ๋ยเกลือแร่ที่เคยมีตามธรรมชาติเหือดแห้งสูญหายไป เขื่อนต่างๆ ที่เก็บกักน้ำไว้ก็ไม่มีบันไดปลาโจนให้สัตว์น้ำได้มีโอกาสขึ้นล่องได้เหมือนอย่างแต่ก่อน ผลที่มีตามมาคือ บรรดากุ้งกร้ามกราม และ ปลาที่มีราคาอื่นๆ เช่น ปลากะโห้ ปลาตะลุมพุก แทบจะต้องสูญพันธุ์ไป
          




ระเบิดปลา








  สิ่งที่นับว่าเป็นภัยมากที่สุดก็คือการใช้เครื่องมือและวิธีการทำการประมงที่มีภยัยอันตรายร้ายแรงผิดกฏหมาย เช่น 
-ระเบิดปลาและช๊อตไฟฟ้าในย่านน้ำจืด รวมทั้งในส่วนที่เป็นชายฝั่งทะเลทุกแห่ง 
-การใช้ยาเบื่อเมาทำลายพืชพันธุ์ของสัตว์น้ำอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ 
แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มผลผลิตด้วยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำด้วยรูปแบบและกรรมวิธีต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น กรมประมงได้จัดตั้งสถานีประมง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการเพิ่มปริมาณลูกสัตว์น้ำไว้แจกจ่าย และ ปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ อีกทั้งในภาคเอกชน ก็ยังมีผู้ให้ความสนใจ และ ให้การสนับสนุนนโยบายของกรมประมงมากขึ้นเป็นลำดับ นับว่าเป็นกุศลเจตนาที่ควรแก่การสรรเสริญ อันจะยังผลให้แผ่นดินของประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหารสืบไป




เเหล่งอ้างอิง
หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน




               

                

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น